พัสดุของไปรษณีย์ กับความเเตกต่างในระดับบริการขนส่ง

พัสดุของไปรษณีย์ กับความเเตกต่างในระดับบริการขนส่ง

หลายคนอาจจะมีความสงสัยในบริการส่ง พัสดุของไปรษณีย์ ที่มีหลายระดับมากในขณะที่บริการขนส่งของบริษัทเอกชนจะมีแค่ระดับเดียวหรืออาจจะมีสองระดับ ได้แก่ ขนส่งพัสดุแบบธรรมดา กับ ขนส่งพัสดุแบบ EMS แต่สำหรับบริการขนส่งพัสดุของไปรษณีย์นั้นจะมีให้ลูกค้าอย่างเรา ๆ ได้เลือกมากถึง 3 ระดับ ได้แก่ การขนส่งพัสดุแบบธรรมดา การขนส่งพัสดุแบบลงทะเบียน และการขนส่งพัสดุแบบ EMS จนทำให้ใคร ๆ ถึงกับสงสัยและเลือกไม่ถูกเมื่อใช้บริการในสำนักงานไปรษณีย์เป็นครั้งแรก ซึ่ง 3 บริการนี้จะมีความแตกต่างกันด้วยเรื่องของระยะเวลาการจัดส่งพัสดุเป็นหลักซึ่งระยะเวลาจากเราที่เป็นผู้จัดส่งไปถึงผู้รับที่อยู่ปลายทางจะกินเวลาไม่เหมือนกัน ฉะนั้นเพื่อความไม่ประมาทในการที่ผู้รับจะไม่ได้รับพัสดุของเราช้าเกินไปล่ะก็ คุณต้องมารู้จักความต่างในระดับบริการขนส่งพัสดุของไปรษณีย์ทั้ง 3 รูปแบบนี้ก่อนส่งพัสดุให้ไปรษณีย์จริง ๆ ไม่เช่นนั้นก็อาจทำให้ผู้รับถึงกับติดต่อมาหาคุณด้วยตัวเองเพื่อถามหาพัสดุแบบรอไม่ไหวได้

พัสดุของไปรษณีย์ มีการขนส่งเเตกต่างกันดังนี้

การขนส่งพัสดุไปรษณีย์แบบธรรมดา

พัสดุ ของไปรษณีย์ กับความเเตกต่างในระดับบริการขนส่ง

“การขนส่งพัสดุไปรษณีย์แบบธรรมดา”  เป็นการขนส่งพัสดุทั่วไปที่รหัสพัสดุจะขึ้นต้นด้วยตัว P นำหน้า เช่น PA/PB/PC/PD โดยการส่งของแบบนี้จะไม่สามารถตรวจสอบสถานะพัสดุทางอินเตอร์เน็ตได้ แต่สามารถตรวจสอบได้ที่สำนักงานไปรษณีย์ต้นทางและปลายทางเท่านั้น ซึ่งเป็นวิธีการจนส่งพัสดุไปรษณีย์ที่คลาสสิกที่สุดและมีเวลานานที่สุด หากเป็นพื้นที่ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล จะได้รับของประมาณ 4 – 5 วันทำการ, พื้นที่ปลายทางในเขตภาคเดียวกัน จะได้รับของประมาณ 5 – 6 วันทำการ และพื้นที่ปลายทางที่อยู่ในภาคอื่น หากไม่ไกลมากก็จะใช้เวลาประมาณ 6 – 7 วันทำการ แต่ข้อดี คือ การขนส่งพัสดุแบบนี้สามารถครอบคลุมพัสดุได้ทุกน้ำหนัก ไม่มีการจำกัดเหมือนตัวเลือกการขนส่งพัสดุอีก 2 รูปแบบ หากของสูญหายจะได้รับค่าประกันพัสดุในวงเงิน 1,000 บาท

การขนส่งพัสดุไปรษณีย์แบบลงทะเบียน

“การขนส่งพัสดุไปรษณีย์แบบลงทะเบียน” เป็นการขนส่งพัสดุแบบลงทะเบียนจะจำกัดน้ำหนักไม่เกิน 2 กิโลกรัม มีรหัสพัสดุขึ้นต้นด้วยตัว R นำหน้า เช่น RA/RB/RC/RD/RF/RG เรียกว่า รวมสารพัด R มีความนิยมมากที่สุด เนื่องจากราคากำลังพอดี มีระยะเวลาที่ไม่ช้าไป หากเป็นพื้นที่ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล จะได้รับของประมาณ 3 – 4 วันทำการ, พื้นที่ปลายทางในเขตภาคเดียวกัน จะได้รับของประมาณ 4 – 5 วันทำการ และพื้นที่ปลายทางที่อยู่ในภาคอื่น หากไม่ไกลมากก็จะใช้เวลาประมาณ 5 – 6 วันทำการ  สามารถตรวจสอบสถานะพัสดุทางอินเตอร์เน็ตได้จากรหัสพัสดุที่ทางไปรษณีย์ให้ไว้ แต่จะขึ้นแค่ข้อมูลการรับพัสดุเข้าระบบขนส่งเรียบร้อยแล้ว และจะแจ้งอีกทีเมื่อพัสดุถึงปลายทาง จึงไม่สามารถตรวจสอบกระบวนการขนส่งพัสดุแบบลงทะเบียนในระหว่างทางได้ว่ามาถึงจุดใดแล้ว หากของสูญหายจะได้รับค่าประกันพัสดุในวงเงิน 300 บาท

พัสดุ ของไปรษณีย์ กับความเเตกต่างในระดับบริการขนส่ง

การขนส่งพัสดุไปรษณีย์แบบ EMS

พัสดุ ของไปรษณีย์ กับความเเตกต่างในระดับบริการขนส่ง

“การขนส่งพัสดุไปรษณีย์แบบ EMS”  เป็นการขนส่งพัสดุที่มีการจำกัดน้ำหนักไม่เกิน 10 กิโลกรัม มีความรวดเร็วทันใจผู้คนอย่างมาก แต่ราคาก็จะสูงตามเพราะเป็นการเลือกบริการขนส่งพัสดุแบบเร่งด่วน มีความปลอดภัย ผู้รับปลายทางได้พัสดุเร็ว มีรหัสจะขึ้นต้นด้วยตัว E เช่น EA/EG/EH/EJ/EK ซึ่งก็ย่อมากจากคำว่า EMS สามารถตรวจสอบสถานะพัสดุทางอินเตอร์เน็ตได้โดยอัพเดทในระบบแบบ Real Time ถึงลำดับการส่งอย่างละเอียดว่าของถึงไหนแล้ว และยังจัดส่งของในวันอาทิตย์ด้วย หากของสูญหายจะได้ค่าประกันพัสดุในวงเงิน 2,000 บาท โดยระยะเวลาการขนส่งพัสดุแบบ EMS หากเป็นพื้นที่ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ปลายทางจะได้รับของในวันถัดไป ไม่เกิน 12.00 น. หรือ 16.30 น. (แล้วแต่ระยะทาง), พื้นที่ปลายทางในเขตภาคเดียวกัน จะได้รับของในวันถัดไป ประมาณ 1 – 2 วันทำการ และพื้นที่ปลายทางที่อยู่ในภาคอื่น จะได้รับของภายใน 2 – 3 วันทำการ

#ไปรษณีย์

อัพเดทข่าวสาร สาระดีๆ เพิ่มเติมที่ The7days