เชื่อว่าในปัจจุบันนี้มีร้านอาหารหลายร้านที่ต้องการเพิ่มลูกค้าให้มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่จากหน้าร้านหากเป็นร้านอาหารที่เปิดมานานแล้วและต้องการเพิ่มกำไรให้ตัวเองไปอีก และนอกจากนี้ยิ่งเป็นร้านอาหารที่มือใหม่หลายคนเพิ่งเปิดขายได้ไม่นาน แม้จะมีหน้าร้านอาหารแต่ก็ค่อนข้างเงียบเชียบ ด้วยไม่ค่อยมีลูกค้าให้ความสนใจหรือรู้จัก และมือใหม่ที่มีไม่มีทุนในการทำหน้าร้านของตัวเองเพื่อรองรับลูกค้ามารับประทานที่ร้านก็มี คนส่วนใหญ่ที่ทำร้านอาหารในวันนี้จึงเล็งเป้าหมายการหาลูกค้าไว้ที่การลงขายอาหารให้ลูกค้าสั่งผ่านแอพพลิเคชั่นเดลิเวอรี่กันมาก เพราะแอพพลิเคชั่นส่งอาหารเดลิเวอรี่จะช่วยโปรโมทร้านอาหารของทุกคนให้ลูกค้ารู้จักได้เป็นอย่างดี แถมมีภาพประกอบด้วย แต่ก็ย่อมต้องมีข้อแลกเปลี่ยนเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน คือ แอพพลิเคชั่นส่งอาหารเดลิเวอรี่ต้องได้รับการแบ่งเปอร์เซ็นต์ค่าอาหารในแต่ละครั้งที่มีลูกค้าสั่งเข้ามาทางออนไลน์ด้วย ซึ่งแต่ละแอพพลิเคชั่นก็จะมีการขอเปอร์เซ็นต์รายได้ที่ไม่ต่างกัน แต่ปกติก็จะไม่น้อยไปกว่า 30% ทำให้ร้านอาหารต้องมีการเพิ่มราคาเมนูอาหารที่มากกว่าขายในหน้าร้านชองตัวเองกันทุกคนเพื่อไม่ให้เสียกำไรเต็มจำนวนที่ควรได้รับ แต่ก็ย่อมเกิดความกังวลเหมือนกันว่าหากเพิ่มมากไปจะขายได้หรือไม่ วันนี้เราจึงมีทริก เพิ่มราคา ของกิน ในแอพเดลิเวอรี่ที่เหมาะสมมาบอกคุณกัน
วิธีพิจารณา เพิ่มราคา ของกิน ในแอพเดลิเวอรี่
อยู่ในราคาที่ไม่เกินหน้าร้านนัก
การเพิ่มราคาเมนูอาหารที่ขายผ่านแอพพลิเคชั่นส่งอาหารเดลิเวอรี่ คุณต้องตระหนักถึง 2 อย่าง ได้แก่ การไม่ชายอาหารในราคาที่สูงมากสำหรับลูกค้าทั่วไป เพราะจะทำให้ขายได้น้อยจริง ๆ กับอีกอย่าง คือ การไม่เสียกำไรจากการถูกหักเปอร์เซ็นต์นต์รายได้ของแอพพลิเคชั่นมากไป ที่ต้องใช้คำว่า “มากไป” เพราะอย่างไรคุณก็ต้องมีการเสียกำไรบางส่วนและไม่ได้เต็มจำนวนอยู่ดี เพราะหากจะเพิ่มราคาเมนูอาหารขึ้นอีก 30% ล่ะก็บอกเลยว่า ขายให้ลูกค้ายากมาก เช่น จากราคาหน้าร้าน 35 บาท เมื่อลูกค้ามาซื้ออาหารผ่านแอพพลิเคชั่นจะราคา 65 บาทเลย เป็นต้น ถือว่าราคาสูงมาก คุณจึงต้องรับข้อเสียด้านนี้ให้ได้เพื่อยอมเพิ่มราคาแบบไม่ถึง 30% อย่างน้อยสัก 15% ก็กำลังเหมาะกับเงินของลูกค้า ถือว่าเป็นกลางมากสุดแล้ว แม้คุณจะต้องเสียกำไรเต็มจำนวนลดลงไป 15% ก็ตาม แต่จะมีลูกค้าแน่นอน

มีราคาโปรโมชั่น
อีกทริกหนึ่งของการเพิ่มราคาเมนูอาหารที่ขายผ่านแอพพลิเคชั่นส่งอาหารเดลิเวอรี่เพื่อให้สามารถขายอาหารได้ คือ การตั้งราคาโปรโมชั่นโดยจัดเซ็ตเมนูเหมา ๆ ขายร่วมกัน เช่น ข้าวผัดกะเพราหมู 2 กล่อง ราคา 90 บาท จากราคาปกติกล่องละ 50 บาท หรือข้าวไก่เทอริยากิคู่โค้กกระป๋อง ราคา 65 บาท เป็นต้น แล้วจะคุ้มกับราคามากสำหรับลูกค้า แม้ว่าคุณจะไม่สามารถเพิ่มราคาแบบไม่เต็ม 30% ได้จริง ๆ แต่ก็ยังมีเมนูอาหารราคาโปรโมชั่นดึงดูดลูกค้าอยู่

เพิ่มราคาต่างกันตามประเภทของเมนู
ในบางเมนูอาหารที่คุณจะเพิ่มราคาเมนูอาหารที่ขายผ่านแอพพลิเคชั่นส่งอาหารเดลิเวอรี่ คุณอาจเพิ่มมากหรือน้อยก็ได้ขึ้นอยู่กับประเภทของเมนู เช่น หากเป็นเมนูอาหารที่มีเนื้อสัตว์เยอะก็จะมีการเพิ่มราคาที่สูงเป็นพิเศษ หากเป็นเมนูต้มหรือผัดผักก็จะเพิ่มราคาไม่สูง เป็นต้น

อัพเดทข่าวสาร เพิ่มเติมที่ The7days