การฝึกสติแบบวิถีพุทธเป็นที่นิยมถูกนำไปใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลกและในผู้คนที่ประสบความสำเร็จเป็นที่รู้จักหลายๆคน ก็ใช้วิธีการฝึกสมาธิไปใช้ด้วย เหตุผลของการฝึกสมาธินั้น สามารถช่วยในการลดคงามตึงเครียดลงได้ นอกจากนี้ยังช่วยผ่อนคลายทำให้หลับสบายขึ้น การ ใช้ 5 วิธี ฝึกสติ นี้อาจจะทำให้เปลี่ยนมุมมองเเละเสริมสร้างความสุขุมทางอารมณ์ ความคิด การตัดสินใจได้ดีขึ้น
และการฝึกสติยังมีส่วนช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานอีกด้วย เพราะจะทำให้เราโฟกัสกับงานที่ทำมากยิ่งขึ้น ซึ่งวิธีการฝึกสติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานนั้น มีหลากหลายวิธี
ในวันนี้จะนำเสนอทั้งหมด 5 วิธี ฝึกสติ
1. จัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่ต้องทำในวันพรุ่งนี้
แม้ว่าจะถึงเวลาพัก่อนหลังจากการเลิกงาน แต่การใช้เวลาวางแผนสำหรับกิจกรรมที่จะทำให้วันรุ่งขึ้น ก็เป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะจะทำให้เราโฟกัสกับงานที่จะทำได้ และภาพของงานที่ต้องทำทั้งหมดในทั้งวัน เพื่อไม่ให้เกิดการตกหล่นของงาน และเพื่อเป็นการตรวจสอบดูว่างานไหนสำคัญให้จับขึ้นมาทำก่อน เพราะการเสียเวลาวางแผน5-10นที จะทำให้เราประหยัดเวลาในการทำงานให้รวดเร็วขึ้นหลายชั่วโมง
2. เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการนั่งสมาธิ
หลังจากตื่นนอนสมองจะปลอดโปร่งมากเหมาะกับการทำสมาธิในช่วงนี้ เพราะคลื่นสมองยังไม่ถูกรบกวนจากสภาพแวดล้อมภายนอก การนั่งสมาธิเพื่อเริ่มกิจกรรมต่างๆที่วุ่นวายตลอดทั้งวัน ก็เป็นวิธีการที่ดีมาก การนั่งสมาธิในช่วงเช้าอาจใช้เวลาเพียงแค่ 10-15นาที เพื่อเป็นการช่วยเริ่มเช้าวันใหม่ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

3. จดจ่อกับงานเพียงงานเดียว
หลายๆคนเข้าใจว่าการทำงานได้หลากหลายอย่างเป็นสิ่งที่ดีและดูประหยัดเวลาเพราะจะได้ทำให้งานเสร็จได้หลายอย่าง แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราสามารถที่จะโฟกัสได้แค่งานเพียงเดียว เพียงแต่เราแค่สลับไปๆมาๆในการทำงานก็เท่านั้นเอง นั้นหมายความว่าที่จริงแล้วเราเสียเวลาในการทำงานมากกว่าเดิมนั้นเอง ซึ่งจริงๆแล้วหากเราทำงานเพียงอย่างเดียวงานจะเสร็จไวขึ้นกว่าทำงานหลายอย่างพร้อมกันกว่า40%
4. สร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่มีสิ่งรบกวน
เคยสังเกตไหมว่าการทำงานของเราจะช้าลงเมื่อมีสิ่งรบกวนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเสียงโทรศัพท์ การตอบเมล์ ไลน์ แชท ระหว่างการทำงาน ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นอุปสรรคในการทำงาน ซึ่งทำให้งานของเราเสร็จช้าลงจนถึงขั้นทำงานนั้นไม่เสร็จ ทางแก้ไขคือปิดการสื่อสารจากโลกภายนอกทั้งหมด พวกโซเชียลต่างๆ และโทรศัพท์ควรตั้งเป็นแบบปิดเสียง และให้เบอร์ติดต่อฉุกเฉินกีบคนที่สำคัญเท่านั้น และควรเปิดเพลงที่ผ่อนคลายในการทำงานเพื่อไม่ให้เกิดความเครียดมากจนเกินไป

5. ถ้าเสียสมาธิ จงหยุดพักก่อน แล้วลงมือเขียน
เมื่อเราเสียสมาธิจากการทำงานให้เราหยุดพักและเขียนใส่ลงกระดาษ ด้วยเรื่องที่ทำให้เสียสมาธิ เหตุผลที่ต้องเขียนคือมันเป็นการกำหนดรู้ว่าเราเสียสมาธิจากเรื่องอะไร จากนั้นเราก็ผ่อนคลายตัวเอง5-10นาที และกลับไปลุยงานต่อ เพื่อเป็นการลดความวุ่นวายใจที่เกิดขึ้น และเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งหมดที่กล่าวมานั้น เป็นการช่วยฝึกให้เรามีสติอยู่กับสิ่งที่ทำ โฟกัสกับสิ่งที่ทำให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด การฝึกสติและสมาธิ มีผลดีในเรื่องของสุขภาพ ช่วยป่องกันโรคเครียด โรคหัวใจ ความดันโลหิต ซึ่งถ้าหมกฝึกอย่สงต่อเนื่องนอกจากประสิทธิภาพในการทำงานจะดีขึ้นแล้ว สุขภาพของเราก๋จะดีชึ้นด้วย
อัพเดทข่าวสาร เพิ่มเติมที่ The7days